Thanager & Co Company Limited

เคล็ดลับความยั่งยืนจาก CEO แห่ง IKEA ยกระดับธุรกิจ สร้างผลกระทบน้อยต่อสิ่งแวดล้อม บทความจาก MIT Sloan Management Review นำเสนอ 3 กลยุทธ์เด็ดจากเจสเปอร์ บรินด์, อดีต CEO ของอิเกีย ที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน 1️⃣มองไกล คิดถึงอนาคต: ผู้นำควรวางแผนธุรกิจในระยะยาว คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และมองหาโอกาสในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ 2️⃣นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน: ธุรกิจควรส่งเสริมการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อลดการใช้ทรัพยากร เช่น การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัสดุน้อยลง หรือการใช้พลังงานหมุนเวียน 3️⃣สร้างความร่วมมือ: การแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมต้องการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ธุรกิจควรจับมือกับซัพพลายเออร์ ลูกค้า และหน่วยงานภาครัฐ เพื่อผลักดันแนวทางการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน เคล็ดลับเพิ่มเติม ❇️สร้างความโปร่งใส: เปิดเผยข้อมูลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมของบริษัท เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค ❇️สร้างแรงจูงใจให้พนักงาน: ปลูกฝังจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมให้กับพนักงาน และสนับสนุนให้พวกเขาคิดค้นวิธีการทำงานที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ การนำแนวคิดเหล่านี้ไปปรับใช้ จะช่วยให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จ ควบคู่ไปกับการสร้างผลกระทบน้อยต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญ #ธุรกิจยั่งยืน #IKEA #สิ่งแวดล้อม

บทความจาก Wharton School of the University of Pennsylvania เรื่อง "ยกระดับคุณค่าลูกค้า: สามกลไกสำคัญในการสร้างความเคารพ" (Dignify Your Customers: Three Levers to Pull) ได้เน้นย้ำถึง 3 วิธีการสำคัญในการสร้างความเคารพต่อลูกค้า ดังนี้ 1️⃣การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ: การสื่อสารกับลูกค้าอย่างชัดเจน ตรงไปตรงมา และสุภาพ รวมถึงการรับฟังความคิดเห็นของลูกค้า จะช่วยสร้างความรู้สึกเคารพและเชื่อถือ 2️⃣การเสนอทางเลือกที่หลากหลาย: การเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการที่หลากหลาย โดยคำนึงถึงความต้องการที่แตกต่างกันของลูกค้า จะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าได้รับการใส่ใจและเห็นคุณค่า 3️⃣การสร้างความสัมพันธ์เชิงบวก: การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ผ่านการให้บริการที่ยอดเยี่ยม การแก้ปัญหาอย่างรวดเร็ว และการแสดงความขอบคุณ จะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกผูกพันกับแบรนด์มากขึ้น การสร้างความเคารพต่อลูกค้าเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาว และส่งผลต่อความสำเร็จของธุรกิจ มีเคล็ดลับเพิ่มเติมดังนี้ 🎯เน้นที่ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric): พิจารณาการตัดสินใจทุกอย่าง โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นหลัก 🤗สร้างความประหลาดใจเล็กๆ น้อยๆ: เซอร์ไพรส์ลูกค้าด้วยบริการพิเศษหรือของขวัญเล็กๆ น้อยๆ เพื่อแสดงความใส่ใจ 🫶ขอโทษอย่างจริงใจเมื่อเกิดข้อผิดพลาด: ยอมรับความผิดพลาด และแสดงความจริงใจในการแก้ไขปัญหา เพื่อรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า การสร้างความเคารพต่อลูกค้าเป็นเหมือนกับการสร้างรากฐานที่มั่นคงให้กับธุรกิจ ยิ่งลูกค้ารู้สึกว่าได้รับการเคารพมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งภักดีต่อแบรนด์ของคุณมากขึ้นเท่านั้น #สร้างสัมพันธ์กับลูกค้า #บริการลูกค้า #ธุรกิจยั่งยืน

ข้อมูลสำคัญๆ จาก MIT Sloan Management Review เกี่ยวกับสิ่งที่ผู้บริหารจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) สรุปได้ดังนี้ 1️⃣ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับ AI: ผู้บริหารควรมีความเข้าใจพื้นฐานว่า AI ทำงานอย่างไร มีจุดเด่นจุดด้อยอย่างไร เพื่อที่จะนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม 2️⃣ส่งเสริมการใช้ AI ในองค์กร: ผู้บริหารควรส่งเสริมให้พนักงานได้ทดลองใช้เทคโนโลยี AI เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และพัฒนาทักษะ 3️⃣วางแผนการลงทุนใน AI: การนำ AI มาใช้ในองค์กร ต้องมีการวางแผนการลงทุนที่ชัดเจน 4️⃣การบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่: AI ต้องอาศัยข้อมูลขนาดใหญ่ในการทำงาน ดังนั้น ผู้บริหารต้องคำนึงถึงวิธีการจัดการข้อมูลเหล่านั้น 5️⃣การนำ AI ไปยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าและพนักงาน: AI สามารถช่วยยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าและพนักงานได้ เช่น การใช้ chatbot สำหรับการบริการลูกค้า หรือการใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน 6️⃣ข้อควรคำนึงด้านจริยธรรม: การนำ AI มาใช้ในองค์กร ควรคำนึงถึงหลักจริยธรรม เช่น การไม่เลือกปฏิบัติ การมีความโปร่งใส และการรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ การนำ AI มาใช้ในองค์กรจำเป็นต้องมีการศึกษา วางแผน และดำเนินการอย่างรอบคอบ ผู้บริหารควรประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เช่น เรื่องความปลอดภัยของข้อมูล และการเกิดอคติในระบบ AI เคล็ดลับเพิ่มเติม ✅ติดตามเทรนด์ใหม่ๆ ของ AI อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้องค์กรสามารถนำเทคโนโลยีไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅สร้างทีมงานที่มีความรู้ความสามารถด้าน AI เพื่อสนับสนุนการนำ AI ไปใช้ในองค์กร การนำเทคโนโลยี AI มาใช้ประโยชน์อย่างชาญฉลาด ผู้บริหารสามารถสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ได้

บทความจาก MIT Sloan School of Management หัวข้อ "How to Build a Technology Road Map in Established Organizations" กล่าวถึงแนวทางการสร้างแผนงานเทคโนโลยีสำหรับองค์กรที่ดำเนินธุรกิจมายาวนาน บทความเน้นย้ำถึงความสำคัญของการมุ่งเน้นผลลัพธ์ทางธุรกิจ (Business Outcomes) และการเลือกเทคโนโลยีที่มีศักยภาพสูงสุดในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ บทความยังได้อธิบายถึงหลักสำคัญ 3 ประการของกลยุทธ์นวัตกรรมของ J&J ดังนี้ 1️⃣การปรับปรุงระบบนิเวศน์และเทคโนโลยีพื้นฐานให้ทันสมัย (Modernizing the Technology Ecosystem and Core) 2️⃣เสริมสร้างความรู้ความสามารถด้านดิจิทัลให้กับองค์กร (Building Enterprise Digital Acumen) 3️⃣สร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อสร้างผลกระทบ (Innovating for Impact) คำแนะนำเพิ่มเติม ❇️กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน: ก่อนที่จะเลือกเทคโนโลยี คุณควรระบุเป้าหมายทางธุรกิจที่ต้องการบรรลุให้ชัดเจนเสียก่อน เทคโนโลยีที่คุณเลือกควรสนับสนุนและช่วยให้บรรลุเป้าหมายเหล่านั้นได้ ❇️มองไปไกลกว่าเทรนด์: อย่าหลงติดกับเทรนด์เทคโนโลยีที่กำลังมาแรงเท่านั้น แต่ควรพิจารณาถึงความสอดคล้องกับกลยุทธ์องค์กรและความสามารถในการใช้งานจริงในองค์กรของคุณด้วย ❇️วัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้และปรับตัว: การสร้างสรรค์นวัตกรรมต้องอาศัยการเรียนรู้และปรับตัวอยู่เสมอ ส่งเสริมให้พนักงานในองค์กรกล้าที่จะทดลองสิ่งใหม่ ๆ และเรียนรู้จากความผิดพลาด ❇️การสื่อสารอย่างต่อเนื่อง: การสื่อสารแผนงานเทคโนโลยีไปยังผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย ช่วยให้ทุกคนทราบความเคลื่อนไหวและเป้าหมายร่วมกัน รวมถึงเปิดโอกาสให้ได้รับฟังความคิดเห็นและปรับแผนให้เหมาะสม

Key Takeaways from "Boardroom Mastery" The HBR article offers valuable insights for venture capitalists seeking to become effective board members. Here are the key takeaways: Active Participation and Mindset Shift ❇️Proactive Role: Venture capitalists should take an active role in board meetings, prioritizing people and the power of ownership. ❇️Collaboration Over Due Diligence: Shift from a due diligence mindset to one of collaboration, framing questions thoughtfully and setting clear intentions. Seeking Guidance and Diversity ✅Mentorship: Find mentors and leverage opportunities to learn from experienced board members. ✅Proactive Feedback: Seek feedback regularly to improve your performance. ✅Diverse Boards: Promote diversity in board composition to enhance governance and value creation. Additional Recommendations 🎉Continuous Learning: Stay updated on industry trends, best practices, and emerging technologies. 🎉Effective Communication: Develop strong communication skills, including active listening and clear articulation. 🎉Ethical Conduct: Adhere to ethical standards and maintain integrity in your dealings. 🎉Strategic Thinking: Cultivate a strategic mindset to anticipate challenges and opportunities. 🎉Relationship Building: Foster strong relationships with management teams, fellow board members, and other stakeholders. By following these guidelines, venture capitalists can become more effective board members, driving company performance, enhancing their brand, and securing future deal flow.

บทความโดยสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซ็ทส์ สถาบันเทคโนโลยี (MIT Sloan) วิเคราะห์แนวโน้มการประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์เชิงสร้างสรรค์ (Generative AI) ในภาคธุรกิจ ประเด็นสำคัญจากบทความ: ✅เน้นความรวดเร็ว: บทความชี้ให้เห็นว่า Generative AI ช่วยให้บริษัทสามารถวางแผนกลยุทธ์ได้รวดเร็วขึ้น เมื่อทำงานร่วมกับการวิเคราะห์ข้อมูล ช่วยให้บริษัทปลดล็อคศักยภาพในการคิดเชิงกลยุทธ์ แทนที่จะมุ่งเน้นแต่การทำงานตามรายการ (To-Do List) ✅กระบวนการทำงานที่เหมาะสม: บทความแนะนำให้กำหนด "โซนคิด" ที่เหมาะสมกับตัวเอง จัดสรรเวลาเฉพาะสำหรับการคิดเชิงกลยุทธ์ แม้จะเป็นเวลาเพียง 15 นาทีต่อวันก็ได้ ข้อคิดเห็นเพิ่มเติม: ❇️การมีวิสัยทัศน์: นอกจากความรวดเร็วแล้ว การมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ผู้นำที่ดีต้องสามารถมองการณ์ไกล และกำหนดทิศทางที่ถูกต้องให้กับองค์กร ❇️การเรียนรู้ต่อเนื่อง: ในโลกที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว การเรียนรู้ตลอดเวลาเป็นสิ่งสำคัญ ช่วยให้สามารถนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาปรับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ❇️สร้างทีมที่แข็งแกร่ง: บริษัทประสบความสำเร็จได้ด้วยทีมงานที่แข็งแกร่ง การส่งเสริมการทำงานร่วมมือ สร้างบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ และการมอบหมายงานอย่างเหมาะสม ล้วนส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน Generative AI เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ ช่วยให้บริษัทสามารถวางแผนกลยุทธ์ได้รวดเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม การมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน การเรียนรู้ต่อเนื่อง และการสร้างทีมที่แข็งแกร่ง ล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้องค์กรประสบความสำเร็จในยุคดิจิทัล

We are actively #hiring! Know anyone who might be interested?

บทความ HBR: If Strategy Is So Important, Why Don’t We Make Time for It? บทความนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการให้เวลากับการคิดเชิงกลยุทธ์สำหรับผู้นำ แม้ว่าหลายคนตระหนักถึงความสำคัญ แต่กลับขาดเวลาในการทำเช่นนั้น บทความนี้วิเคราะห์ปัจจัยที่ทำให้เกิดความขัดแย้งนี้ เช่น แรงจูงใจภายในองค์กรที่มุ่งเน้นการทำงานหนักและการยุ่งอยู่เสมอ และแรงกดดันจากภายนอกที่ทำให้ผู้นำรู้สึกว่าต้องยุ่งอยู่เสมอเพื่อแสดงความสำเร็จ บทความยังเสนอแนวทาง 3 ประการเพื่อช่วยให้ผู้นำสามารถสร้างเวลาว่างสำหรับการคิดเชิงกลยุทธ์ ได้แก่ การจัดการเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ การระบุกิจกรรมที่ใช้เวลาจริง และการเปลี่ยนวิธีคิดเกี่ยวกับความยุ่ง การทำเช่นนี้จะช่วยให้ผู้นำสามารถยึดมั่นในเป้าหมายที่สำคัญได้ คำแนะนำเพิ่มเติม: ✅สร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนการคิดเชิงกลยุทธ์: องค์กรควรสร้างวัฒนธรรมที่สนับสนุนการคิดเชิงกลยุทธ์และให้ความสำคัญกับการวางแผนระยะยาว ✅ฝึกฝนทักษะการคิดเชิงกลยุทธ์: ผู้นำสามารถฝึกฝนทักษะการคิดเชิงกลยุทธ์ผ่านการอ่านหนังสือ การเข้าร่วมสัมมนา และการเรียนรู้จากผู้นำที่มีประสบการณ์ ✅สร้างทีมที่แข็งแกร่ง: ทีมที่แข็งแกร่งสามารถช่วยผู้นำในการวางแผนกลยุทธ์และดำเนินการให้สำเร็จ ✅ยืดหยุ่นและปรับตัว: สภาพแวดล้อมทางธุรกิจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผู้นำต้องมีความยืดหยุ่นและสามารถปรับแผนกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ใหม่

สรุปบทความ "To Build Resilience, CEOs Need to Become Supply-Chain Experts" จาก HBR Review บทความ HBR นี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของประสบการณ์ด้านการจัดการห่วงโซ่อุปทาน (SCM) สำหรับผู้นำองค์กรระดับสูง (CEO) ในยุคปัจจุบัน เนื่องจากเหตุการณ์ระดับโลกที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น โควิด-19 สงครามรัสเซีย-ยูเครน และการหยุดชะงักของคลองปานามา ได้ทำให้ห่วงโซ่อุปทานมีความเปราะบางมากขึ้น และ CEO ที่มีความเชี่ยวชาญด้าน SCM สามารถรับมือกับสถานการณ์เหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทความได้วิเคราะห์ข้อมูลของบริษัทใน S&P 500 พบว่า CEO ที่มีประสบการณ์ระดับสูงด้าน SCM มีแนวโน้มที่จะให้ความสำคัญกับการจัดการห่วงโซ่อุปทานมากขึ้น มีความสามารถในการตอบสนองต่อความท้าทายอย่างรวดเร็ว และสามารถใช้ห่วงโซ่อุปทานเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ นอกจากนี้ บทความยังพบว่าบริษัทที่นำโดย CEO ที่มีประสบการณ์ด้าน SCM มีประสิทธิภาพในการรักษาความสามารถในการทำกำไร เพิ่มยอดขาย และลดต้นทุนระหว่างช่วงวิกฤตโควิด-19 มากกว่าบริษัทที่นำโดย CEO ที่ไม่มีประสบการณ์ด้าน SCM บทความนี้ได้เสนอแนะแนวทางในการพัฒนาความเชี่ยวชาญด้าน SCM ให้กับผู้นำองค์กรระดับสูง ดังนี้ ❇️จัดตั้งโครงการพัฒนาผู้นำด้าน SCM องค์กรควรจัดตั้งโครงการพัฒนาผู้นำและกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความเชี่ยวชาญด้าน SCM ให้กับผู้บริหารระดับสูงและผู้จัดการระดับต้น ❇️ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ด้าน SCM ในการวางแผนสืบทอดตำแหน่ง คณะกรรมการบริษัทควรพิจารณาผู้ที่มีประสบการณ์ด้าน SCM เป็นอย่างดีเมื่อคัดเลือกผู้สืบทอดตำแหน่ง CEO ❇️ดึงดูดบุคลากรระดับสูงด้าน SCM ผู้นำองค์กรและคณะกรรมการบริษัทสามารถใช้เครือข่ายมืออาชีพเพื่อค้นหาบุคลากรที่มีประสบการณ์ด้าน SCM มาทำงานในตำแหน่งผู้บริหารหรือคณะกรรมการ การมีประสบการณ์ด้าน SCM เป็นสิ่งสำคัญสำหรับ CEO ในยุคปัจจุบัน เนื่องจากสามารถช่วยให้องค์กรรับมือกับความท้าทายด้านห่วงโซ่อุปทานได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ องค์กรควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาความเชี่ยวชาญด้าน SCM ให้กับผู้นำองค์กรระดับสูง

บทความจาก MIT Sloan ชื่อ "Want to make the most of generative AI? Use your imagination" ชี้ให้เห็นว่า ผู้นำองค์กรควรคำนึงถึงประโยชน์ที่เหนือกว่าการเพิ่มผลผลิต เมื่อพิจารณาการนำปัญญาประดิษฐ์แบบ generative AI มาใช้ 💡จินตนาการ กุญแจสำคัญ หัวใจสำคัญของบทความนี้ คือ การเน้นย้ำถึงความสำคัญของ "จินตนาการ" ในการใช้ประโยชน์จาก generative AI อย่างเต็มศักยภาพ ตัวอย่างเช่น ดร. เจมี่ ทีวาน (Dr. Jaime Teevan) หัวหน้าฝ่ายวิทยาศาสตร์ประจำไมโครซอฟท์ มองว่า ข้อจำกัดสำคัญของการใช้ AI คือ การขาดจินตนาการของมนุษย์ 🏵️โอกาสที่เหนือกว่า Generative AI ไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานเท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างโอกาสใหม่ ๆ อีกมากมาย เช่น การพัฒนาเครื่องมือค้นหาอัจฉริยะที่ไม่เพียงรวบรวมเว็บเพจ แต่ยังสามารถวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น รวมถึง การพัฒนาโมเดล AI ที่สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้และดึงข้อมูลความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ออกมา #คำแนะนำเพิ่มเติมจาก Thanager & Co Company Limited 🎊ส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งความคิดสร้างสรรค์: องค์กรควรส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนการคิดนอกกรอบ กระตุ้นให้พนักงานกล้าเสนอไอเดียใหม่ ๆ 💪พัฒนาศักยภาพของพนักงาน: การอบรมพนักงานให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ generative AI รวมถึงการพัฒนาทักษะที่จำเป็น เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก (critical thinking) และ ทักษะการแก้ปัญหา (problem-solving) 🫶สร้างทีมงานที่หลากหลาย: การดึงบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญหลากหลายสาขา มาร่วมกันคิดค้นวิธีการใช้ generative AI ในมิติที่กว้างขึ้น Generative AI เป็นเทคโนโลยีทรงพลัง แต่การปลดล็อคศักยภาพอย่างแท้จริง จำเป็นต้องอาศัยทั้งเทคโนโลยีและจินตนาการของมนุษย์ควบคู่กันไป องค์กรที่สามารถผสมผสานทั้งสองสิ่งนี้เข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว ย่อมก้าวไปอีกขั้นอย่างแน่นอน